ข่าว

พบกับอีเวนต์ LOST & FOUND ที่ The Corner House

Flea Market ที่จะนำสีสันแห่งยุค ‘90s ความคิดสร้างสรรค์ และชุมชนมาสู่ย่านเจริญกรุง ตลอด 5 วันเต็ม

Fitri Aelang
เขียนโดย
Fitri Aelang
Staff writer, Time Out Thailand
The Corner House
Photograph: The Corner House
การโฆษณา

The Corner House พร้อมบอกลาปีเก่าด้วยความสดใสและความคิดสร้างสรรค์ ท่ามกลางกลิ่นอายที่หยั่งรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของเจริญกรุงอย่างแท้จริง ระหว่างวันที่ 24-28 ธันวาคมนี้ อาคารแห่งนี้จะเปิดประตูต้อนรับงาน ‘Just Right Corner: EP. 01 LOST & FOUND’ 

งานนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนพื้นที่นี้มาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา พร้อมเปิดประตูต้อนรับชุมชนภายนอกให้เข้ามารวมตัว สัมผัสประสบการณ์ และเฉลิมฉลองร่วมกันในช่วงเวลาโค้งสุดท้ายของปี ท่ามกลางบรรยากาศที่ผสานความถวิลหาถึงอดีตเข้ากับความอยากรู้อยากเห็น ผ่านธีมยุค ‘90s ที่ทั้งขี้เล่น อบอุ่น และเชื่อมทุกองค์ประกอบของงานให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว

คอนเซปต์ของ LOST & FOUND นั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าแค่ภาพลักษณ์อันมีสีสัน แต่มันสะท้อนถึงการเดินทางผ่านขวบปีอันแสนวุ่นวาย ที่บางครั้งเราอาจเผลอทำชิ้นส่วนเล็กๆ ของตัวตนหล่นหายไประหว่างทาง ตลาดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนพื้นที่อันอ่อนโยน ให้เราได้กลับมา ‘ค้นพบ’ สิ่งโปรดปรานที่เคยถูกลืม เชื่อมต่อกับความหลงใหลส่วนตัว และได้พบปะผู้คนที่มีหัวใจรักในความคิดสร้างสรรค์เฉกเช่นเดียวกัน

แม้กลิ่นอายของยุค ‘90s จะห่อหุ้มงานนี้ไว้ด้วยความขี้เล่น ความสดใส และสุนทรียภาพที่แสนคุ้นตา แต่เจตจำนงที่แท้จริงนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความอบอุ่นและการใคร่ครวญถึงตัวตน เพื่อสะกิดความรู้สึกถวิลหาอดีตในห้วงลึกของใจเราขึ้นมาอีกครั้ง

ค้นพบอาคารสี่ชั้นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวให้ค้นหา

The Corner House
Photograph: The Corner House

ความสนุกของงานนี้กระจายตัวอยู่ทั่วทั้ง 4 ชั้น โดยแต่ละโซนถูกออกแบบให้มีอัตลักษณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกัน เริ่มต้นการเดินทางที่ ชั้น 1 พื้นที่แห่งรสชาติและเสียงดนตรี ซึ่งได้รับการดูแลเป็นพิเศษโดย Sarnies & Friends ที่รังสรรค์เมนูเฉพาะกิจมาเพื่อต้อนรับผู้มาเยือน ให้ได้นั่งพักผ่อนคลายอารมณ์เคล้าเสียงเพลงดีๆ ได้ตลอดวัน

เมื่อขยับขึ้นสู่ ชั้น 2 คุณจะพบกับหัวใจหลักของงาน นั่นคือโซนตลาดนัดที่อัดแน่นไปด้วยขุมทรัพย์ของมือสอง งานแฮนด์เมด เสื้อผ้าวินเทจ สิ่งพิมพ์ และข้าวของเปี่ยมเสน่ห์ที่ผ่านกาลเวลา ลองจินตนาการถึงบรรยากาศที่ผู้คนเดินทอดน่องลัดเลาะผ่านห้องต่างๆ อย่างไม่เร่งรีบ ค่อยๆ เปิดลิ้นชักเพื่อเฟ้นหาของสะสมหายาก หรือกวาดสายตาสำรวจราวแขวนเสื้อผ้า ด้วยผังงานที่เอื้อให้เดินวนสำรวจได้หลายรอบอย่างเพลิดเพลิน เพราะเผลอเพียงครู่เดียว คุณอาจสะดุดตากับของชิ้นใหม่ที่มองข้ามไปในรอบแรก

ในอีกมุมหนึ่งของชั้น 2 พื้นที่บางส่วนถูกเปลี่ยนให้เป็นโซนเวิร์กช็อปเพื่อปลุกจิตวิญญาณนักคราฟท์ ตลอด 5 วันเต็ม ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงสามทุ่ม พบกับ Heartmade Studio ที่มาพร้อมคลาสจัดดอกไม้โดยเน้นการใช้หัวใจนำทาง และ Parking Lot Press ที่ชวนคุณมาย้อนวัยทำ Zine (นิตยสารทำมือ) และงานซิลค์สกรีนในสไตล์ DIY ยุค 90s ซึ่งช่วงเวลาที่เปิดกว้างนี้ทำให้คุณมีเวลาเหลือเฟือที่จะมาลองฝึกทักษะใหม่ๆ หรือจะแวะมาจอยหลังเดินช็อปปิ้งเสร็จก็ทำได้อย่างสะดวกสบาย

เหนือขึ้นไปบน รูฟท็อป คือพื้นที่ที่ชวนให้คุณหลีกหนีความวุ่นวายสู่บรรยากาศที่แตกต่าง ตั้งแต่ 5 โมงเย็นจรดเที่ยงคืน ดีเจจาก Century Disk Jockey จะทำหน้าที่หมุนแผ่นเสียงพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุค ‘90s ผ่านท่วงทำนองที่คุ้นเคย ตั้งแต่เสียงเพลงตามสาย เพลงฮิตในเอ็มวียุคแรก ไปจนถึงซาวด์แทร็กแห่งวัยรุ่น พื้นที่เปิดโล่งรับลมธรรมชาติแห่งนี้มอบความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะแก่การมาแฮงก์เอาต์แบบไร้แผนการ บางคนอาจแวะมาฟังเพลงเพียงชั่วครู่แล้วไปต่อ ในขณะที่บางคนเลือกจับจองมุมโปรด ปล่อยใจให้ไหลไปกับค่ำคืนอย่างช้าๆ

และเมื่อเสียงดนตรี แสงไฟ มาบรรจบกับเส้นขอบฟ้าของเมือง รูฟท็อปแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดนัดพบที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ โดยเฉพาะในวันที่ 28 ธันวาคม (18.00-20.00 น.) Jelly Roll Jazz Club จะเนรมิตฟลอร์เต้นรำด้วยคลาสสวิงแดนซ์ ชวนทุกคนลุกขึ้นขยับร่างกาย หัวเราะ และเรียนรู้ท่าเต้นได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐานมาก่อน เพียงไม่กี่นาที คุณก็พร้อมจะสนุกไปกับทุกจังหวะดนตรีได้อย่างกลมกลืน

ภาพยนตร์ เฟอร์นิเจอร์ และโมเมนต์ที่ควรค่าแก่การเก็บไว้ในความทรงจำ

นอกจากความสนุกในโซนตลาดและเวิร์กช็อปแล้ว LOST & FOUND: Screening Series ยังเชิญชวนให้คุณมาปรับเปลี่ยนจังหวะการเดินชมงาน ด้วยโปรแกรมภาพยนตร์ 5 เรื่องที่หลายคนคิดถึง ซึ่งคัดสรรโดย Documentary Club บรรยากาศการรับชมที่นี่ถูกออกแบบให้เป็นกันเอง อบอุ่นเหมือนการนั่งล้อมวงดูหนังเรื่องโปรดกับกลุ่มเพื่อน มากกว่าความรู้สึกเคร่งขรึมในโรงภาพยนตร์ นับเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ช่วยผ่อนคลายอิริยาบถจากการเดินช็อปปิ้งได้อย่างดีเยี่ยม โดยยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความคิดสร้างสรรค์ในทุกอณู

ในส่วนของโซน The Curated Object นั้นได้เข้ามาช่วยเติมเต็มมิติให้กับพื้นที่ ผ่านการจัดแสดงเฟอร์นิเจอร์แบบป๊อปอัพ (Pop-up Showcase) ที่เฟ้นหาชิ้นงานซึ่งมีพลังในการเปลี่ยนมุมเล็กๆ ธรรมดาให้กลายเป็นมุมที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านอย่างละเมียดละไม การจัดวางที่มีขนาดกะทัดรัดและกลมกลืนไปกับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอาคาร เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้หยุดพินิจ ปล่อยความคิด และจินตนาการได้อย่างอิสระโดยปราศจากความรู้สึกอึดอัด

และอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่อาจพลาดได้ คือ Riso Photobooth จากความร่วมมือระหว่าง Two in Row x The Corner House ที่ผสมผสานเทคนิคซิลค์สกรีนเข้ากับเทกซ์เจอร์ดิบๆ ของเครื่องถ่ายเอกสาร ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพพอร์ตเทรตที่มีเสน่ห์แบบ ‘ไม่สมบูรณ์แบบ’ (Imperfect) แต่ยังคงความเท่และคลาสสิก เข้ากับธีมงานอย่างที่สุด เหมือนคุณได้ถือชิ้นส่วนภาพจากอาร์ตบุ๊กยุค ‘90s กลับบ้านไปเป็นของที่ระลึกแห่งความทรงจำ

จุดเริ่มต้นของธรรมเนียมฉบับใหม่

The Corner House
Photograph: The Corner House

งาน  ‘Just Right Corner: EP. 01 LOST & FOUND’  ไม่ได้เป็นเพียงเฟสทีฟมาร์เก็ตช่วงปลายปีเท่านั้น แต่ยังสะท้อนบทบาทของ The Corner House ในฐานะพื้นที่ของชุมชน อาคารแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดรวมตัวของผู้คนจากโลกศิลปะ ดนตรี แฟชั่น และภาพยนตร์ ขณะที่ตลาดนัดก็ทำหน้าที่ดึงคอมมูนิตี้เหล่านั้นมาพบกันอย่างเป็นธรรมชาติและอบอุ่น

ร้านค้าและผู้จัดเวิร์กช็อปแต่ละคนต่างนำ ‘ของ’ ที่มีความเป็นส่วนตัวมาร่วมแบ่งปัน ไม่ใช่แค่เพื่อขายสินค้า แต่เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ และผลลัพธ์ที่ได้คือตลาดที่มีความเรียลซึ่งขับเคลื่อนด้วยผู้คน ไม่ใช่แค่กระแส

ที่ The Corner House เจริญกรุง 35  วันที่ 24-28 ธันวาคม 2568  เข้าฟรี

การโฆษณา